Logo-สำนักงานบัญชี-ARAC
ไขข้อข้องใจ! ภาษีเงินปันผลหุ้นสำหรับนักลงทุนบุคคลธรรมดา จัดการอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
อัปเดตล่าสุด : 10/10/2025
รับเงินปันผลหุ้นมา...แล้วต้องทำยังไงกับภาษีต่อ?  หลายคนอาจปล่อยให้โดนหัก 10% แล้วจบไป แต่รู้หรือไม่ว่าคุณอาจมีสิทธิ์ได้ "เงินภาษีคืน" ก้อนโต!

เมื่อผู้ลงทุนไทย และผู้ลงทุนต่างประเทศที่ประกอบกิจการในประเทศไทยได้รับ "เงินปันผล" (Dividend) ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลจากความสำเร็จของบริษัทที่เราเข้าไปลงทุน หลายคนอาจมีคำถามตามมาว่า เงินก้อนนี้ต้องเสียภาษีอย่างไร? และเรามีทางเลือกในการจัดการภาษีส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้หรือไม่? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

 


 

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% (Withholding Tax)

โดยปกติแล้ว เมื่อบริษัทจดทะเบียนจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดา บริษัทมีหน้าที่ต้อง "หักภาษี ณ ที่จ่าย" ไว้ในอัตรา 10% ของเงินปันผลที่จ่ายทั้งหมด

ตัวอย่าง:

คุณได้รับสิทธิเงินปันผล                          10,000 บาท

บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10%            - 1,000 บาท

เงินปันผลสุทธิที่คุณจะได้รับเข้าบัญชี            9,000 บาท

ภาษี 1,000 บาทที่ถูกหักไป บริษัทจะนำส่งให้กรมสรรพากรโดยตรง

 

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถเลือกนำเงินปันผลไปรวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีหรือไม่ก็ได้ มาดูทางเลือกของนักลงทุนกันต่อ

 


 

ทางเลือกของนักลงทุน : จัดการภาษีเงินปันผลได้ 2 วิธี

จุดสำคัญที่สุดที่นักลงทุนต้องรู้คือ เรามี "สิทธิเลือก" ที่จะจัดการกับภาษีเงินปันผลนี้ได้ 2 แนวทาง ดังนี้

วิธีที่ 1 : เลือกไม่นำไปรวมคำนวณภาษี (Final Tax) (เลือกจบที่ หัก ณ ที่จ่าย)

เหมาะกับใคร : นักลงทุนที่มีฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูง (โดยทั่วไปฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือตั้งแต่ 20% ขึ้นไป)

ต้องดำเนินการอย่างไร: เมื่อคุณถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ไปแล้ว ให้ถือว่าการเสียภาษีสำหรับเงินปันผลส่วนนั้นสิ้นสุดลง (Final Tax) ไม่จำเป็นต้องนำเงินปันผลนั้นไปรวมคำนวณกับรายได้อื่น ๆ ตอนยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด. 90/91)

 

วิธีที่ 2 : เลือกนำเงินปันผลไปรวมคำนวณภาษี โดยอาจได้รับเครดิตภาษี และเสียภาษีเงินได้ตามอัตราก้าวหน้า

เหมาะกับใคร : นักลงทุนที่มีฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่สูง (โดยทั่วไปฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือ 0% - 10%) หรือผู้ที่ไม่มีรายได้อื่นเลยนอกจากเงินปันผล

ต้องดำเนินการอย่างไร : คุณต้องนำ "เงินปันผลทั้งหมด" ที่ได้รับจากหุ้นทุกตัวในปีภาษีนั้น ไปรวมกับรายได้ประเภทอื่น ๆ เพื่อยื่นภาษีประจำปี ภ.ง.ด. 90/91 โดยเงินปันผลจัดเป็นรายได้มาตรา 40(4)(ข) มีโอกาสได้เงินคืนภาษีสูง! ผ่านกลไกที่เรียกว่า "เครดิตภาษีเงินปันผล"

 

หมายเหตุ : เงินได้ประเภทที่ 4 (มาตรา 40(4)(ข)) คืองินปันผล เงินส่วนแบ่งของกำไร หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กองทุนรวม หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายไทยให้จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับให้กู้ยืมเงิน ฯลฯ

 


 

"เครดิตภาษีเงินปันผล": หัวใจของการได้ภาษีคืน

เครดิตภาษีเงินปันผล คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กรมสรรพากรมอบให้เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการเสียภาษี เนื่องจากกำไรของบริษัทได้เสีย "ภาษีเงินได้นิติบุคคล" ไปแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้เราซึ่งต้องเสีย "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" อีกทอดหนึ่ง

ผู้ลงทุนสามารถขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนได้ หากพิจารณาทั้ง 2 วิธีแล้ว แล้วคิดว่าการขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนนั้นคุ้มค่ากว่ากัน โดยสามารถนำอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ลงทุน ไปเทียบกับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทลงทุนไป ซึ่งผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลได้จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของเงินปันผล

 

 

บริการ
ข่าว
Copyright © 2025 A.R. Accounting & Consultant Co., Ltd. All Right reserved.