เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ร้อยละ 7 (รวมภาษีท้องถิ่น) ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2569

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน สร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจ และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มาตรการเดิมกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2568

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การขยายเวลาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในครั้งนี้ เป็นการต่ออายุมาตรการที่สำคัญ โดยรัฐบาลเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน

"การคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ร้อยละ 7 จะช่วยประคับประคองระดับการบริโภคภายในประเทศ และจูงใจให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว

ประโยชน์ต่อประชาชน

ลดภาระค่าครองชีพ ประชาชนสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในราคาเดิม เนื่องจากราคาสินค้าจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นจากการขึ้นอัตราภาษี VAT ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ

ลดต้นทุนการผลิต: ผู้ประกอบการสามารถจัดซื้อวัตถุดิบและปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ได้ในราคาเดิม ช่วยควบคุมต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน: การคงอัตราภาษี VAT ไว้ที่ระดับเดิม เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ว่ารัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โดยสรุป การขยายเวลาลดภาษี VAT 7% เป็นมาตรการที่ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ช่วยลดภาระค่าครองชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน