
ถึงเวลายื่นภาษีครึ่งปี 2568: ใครต้องยื่นบ้าง? เช็กเลยก่อนโดนปรับ!
เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 กันแล้ว สำหรับผู้มีเงินได้บางประเภท นอกจากการยื่นภาษีประจำปีในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) ซึ่งเป็นการสรุปรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีภาษี (มกราคม - มิถุนายน 2568) เพื่อชำระภาษีล่วงหน้า
บทความนี้จะเปรียบเสมือนคู่มือฉบับย่อ ที่จะช่วยให้คุณในฐานะเจ้าของธุรกิจ ฟรีแลนซ์ หรือผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนประจำ เข้าใจถึงหน้าที่และวิธีการยื่นภาษีครึ่งปีได้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับที่ไม่จำเป็น
ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94)?
ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 94 คือบุคคลธรรมดาที่มี เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) ถึง (8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2568 โดยมีเกณฑ์ขั้นต่ำของรายได้ ดังนี้
ผู้ที่เป็นโสด: มีเงินได้พึงประเมินครึ่งปีเกิน 60,000 บาท
ผู้มีคู่สมรส (และยื่นภาษีรวมกัน): มีเงินได้พึงประเมินครึ่งปีรวมกันเกิน 120,000 บาท
ประเภทเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำมายื่นภาษีครึ่งปี
เงินได้ประเภทที่ 5 (มาตรา 40(5)): เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่าบ้าน คอนโด ที่ดิน หรือยานพาหนะ
เงินได้ประเภทที่ 6 (มาตรา 40(6)): เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ทนายความ
เงินได้ประเภทที่ 7 (มาตรา 40(7)): เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ
เงินได้ประเภทที่ 8 (มาตรา 40(8)): เงินได้จากการประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง และเงินได้อื่นๆ ที่ไม่เข้าพวก เช่น รายได้จากการขายของออนไลน์, นักแสดง, นักร้อง, เบี้ยประชุม, ค่านายหน้า เป็นต้น
ข้อควรรู้: หากคุณเป็นพนักงานประจำที่มีรายได้จากเงินเดือน (เงินได้ประเภทที่ 1) เพียงอย่างเดียว ไม่มีหน้าที่ ต้องยื่นภาษีครึ่งปี แต่หากมีรายได้เสริมตามประเภทข้างต้นและเข้าเกณฑ์ ก็จะต้องนำเฉพาะรายได้เสริมนั้นมายื่น ภ.ง.ด. 94
กำหนดการยื่นภาษีครึ่งปี 2568
ยื่นแบบกระดาษ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่: ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2568
ยื่นแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร: ได้รับการขยายเวลาถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2568
วิธีคำนวณภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94)
การคำนวณภาษีครึ่งปีมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ดังนี้
(รายได้พึงประเมิน (ม.ค.-มิ.ย.) - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องชำระ
รวมรายได้พึงประเมิน: นำรายได้ประเภทที่ 5-8 ที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกมารวมกัน
หักค่าใช้จ่าย: สามารถเลือกหักได้ 2 วิธี
หักตามจริง: ต้องมีเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายครบถ้วน
หักแบบเหมา: เป็นอัตราร้อยละตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับเงินได้แต่ละประเภท ซึ่งสะดวกกว่าแต่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ให้ถูกต้อง
หักค่าลดหย่อน: ค่าลดหย่อนสำหรับภาษีครึ่งปีจะสามารถหักได้เพียง ครึ่งหนึ่ง ของสิทธิ์ลดหย่อนทั้งปี เช่น
ค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท (จากปกติ 60,000 บาท)
ค่าลดหย่อนคู่สมรส (ที่ไม่มีเงินได้) 30,000 บาท (จากปกติ 60,000 บาท)
ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 15,000 บาท (จากปกติ 30,000 บาท) บุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท (จากปกติ 60,000 บาท)
ค่าลดหย่อนบิดามารดา คนละ 15,000 บาท (จากปกติ 30,000 บาท)
เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันสุขภาพ, เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, RMF, SSF สามารถนำมาหักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงในช่วง 6 เดือนแรก แต่ไม่เกินเพดานที่กฎหมายกำหนด
ช่องทางการยื่นภาษี
ยื่นด้วยตนเอง: ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาใกล้บ้าน
ยื่นออนไลน์ (E-filing): ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว และได้รับการขยายเวลาในการยื่นแบบอีกด้วย
หากไม่ยื่น หรือยื่นล่าช้า จะเกิดอะไรขึ้น?
การละเลยหน้าที่ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 94 ภายในกำหนดเวลา จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย ดังนี้
ค่าปรับอาญา
ยื่นเกินกำหนดไม่เกิน 7 วัน: ค่าปรับ 100 บาท
ยื่นเกินกำหนดเกิน 7 วัน: ค่าปรับ 200 บาท
กรณีเจตนาไม่ยื่นแบบเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี อาจมีโทษปรับสูงสุด 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เงินเพิ่ม: ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนนับเป็น 1 เดือน) ของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบ
การยื่นภาษีครึ่งปีไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่เป็นหน้าที่สำคัญของผู้มีเงินได้ที่ต้องใส่ใจ เพื่อความถูกต้องและโปร่งใสทางการเงิน การเตรียมข้อมูลและยื่นแบบแสดงรายการตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความผิดพลาดและหลีกเลี่ยงภาระค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่าลืมตรวจสอบรายได้ของท่านและดำเนินการยื่นภาษีครึ่งปี 2568 ให้เรียบร้อยภายในเวลาที่กำหนด