เมื่อเข้าสู่วัยใกล้เกษียณ หนึ่งในเรื่องสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจคงหนีไม่พ้น "เงินบำนาญชราภาพ" จากกองทุนประกันสังคม ซึ่งเปรียบเสมือนหลักประกันทางการเงินที่จะช่วยดูแลเราไปตลอดชีวิตหลังเกษียณ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่กำลังวางแผนอนาคต บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกเงื่อนไขและวิธีคำนวณ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าจะได้รับเงินบำนาญเท่าไหร่กันแน่

เงื่อนไขสำคัญในการรับเงินบำนาญชราภาพ

ก่อนจะไปดูตัวเลข เรามาทบทวนเงื่อนไขการรับสิทธิ์กันก่อน ซึ่งไม่ซับซ้อนเลยค่ะ มีเพียง 2 ข้อหลัก ๆ ดังนี้

-  มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์

-  สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (ลาออกจากงาน หรือไม่ได้ส่งเงินสมทบต่อ)

หากเข้าเกณฑ์ทั้งสองข้อนี้ ก็สามารถยื่นเรื่องขอรับ "เงินบำนาญชราภาพ" ซึ่งจะเป็นการจ่ายเงินรายเดือนไปตลอดชีวิต โดยปัจจุบันสามารถรับเงินผ่านบริการ "พร้อมเพย์" ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนได้อย่างสะดวกสบาย

สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพที่คุณต้องรู้

หลักการคำนวณเงินบำนาญนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนพื้นฐานและส่วนเพิ่มตามระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบ

กรณีส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน (15 ปี) พอดี : คุณจะได้รับเงินบำนาญในอัตรา 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (สำหรับ ม.33 ฐานค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ส่วน ม.39 ใช้ฐานค่าจ้าง 4,800 บาทในการคำนวณ)

กรณีส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน (เกิน 15 ปี) : คุณจะได้รับสิทธิ์บวกเพิ่มอีก 1.5% สำหรับทุกๆ 12 เดือน (1 ปี) ที่ส่งเงินสมทบเกินมาจาก 180 เดือนแรก

ตัวอย่าง : หากคุณส่งเงินสมทบมาทั้งหมด 20 ปี (240 เดือน) เท่ากับว่าคุณส่งเกินมา 5 ปี

อัตราเงินบำนาญที่จะได้รับคือ: 20% (จาก 15 ปีแรก) + (1.5% x 5 ปีส่วนเกิน) = 20% + 7.5% = 27.5% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย

เปิดตารางคำนวณเงินบำนาญชราภาพ (ม.33 และ ม.39)

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูตารางคำนวณเงินบำนาญที่จะได้รับในแต่ละกรณีตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบและฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายกันค่ะ

จากตารางจะเห็นได้ว่า "ยิ่งส่งนาน ยิ่งได้บำนาญเยอะขึ้น" ดังนั้น การวางแผนส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่องจึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลการนำส่งเงินสมทบของตนเองผ่านแอปพลิเคชัน SSO Connect หรือเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม เพื่อวางแผนอนาคตของคุณได้อย่างแม่นยำนะคะ