Logo-สำนักงานบัญชี-ARAC
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีระดับโลกในงานบัญชีและภาษี
อัปเดตล่าสุด : 11/06/2025
การบัญชีและภาษีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก อันเป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี

การบัญชีและภาษีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก อันเป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ซึ่งกำลังกำหนดนิยามใหม่ของการดำเนินงานและกลยุทธ์ทางธุรกิจ เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติกำลังปฏิวัติกระบวนการทำงานด้านบัญชีและภาษี ตั้งแต่การบันทึกข้อมูล การกระทบยอด ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ซับซ้อน  ศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และลดต้นทุนนั้นมีมหาศาล บทความนี้จะแสดงให้เห็นถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องอาศัยแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุม ซึ่งธุรกิจหรือสำนักบัญชีไทยจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีกลยุทธ์ และพัฒนาบุคลากรลงทุนในการพัฒนาทักษะ (Upskilling/Reskilling) พนักงานให้มีความพร้อมสำหรับบทบาทใหม่

 

ท้ายที่สุด เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนบทบาทของนักบัญชีและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี จากเดิมที่เน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการบันทึกข้อมูล ไปสู่การเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการตัดสินใจทางธุรกิจ  องค์กรที่สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นผู้ได้เปรียบในภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

 

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีระดับโลกในงานบัญชีและภาษี

ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมบัญชีและภาษีกำลังถูกกำหนดรูปโฉมใหม่ด้วยคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทรงพลัง การบรรจบกันของเทคโนโลยีหลักหลายอย่างกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างรวดเร็ว

 

ภาพรวมแนวโน้มเทคโนโลยีที่สำคัญ

  1. AI และระบบอัตโนมัติ (AI & Automation) : นี่คือแนวโน้มที่โดดเด่นที่สุด การใช้ AI และซอฟต์แวร์อัตโนมัติกำลังขยายขอบเขตจากการทำงานซ้ำ ๆ ง่าย ๆ เช่น การป้อนข้อมูล การจ่ายเงินเดือน ไปสู่กระบวนการที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การคาดการณ์สถานการณ์ทางการเงิน การจัดการความเสี่ยง และการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และเพิ่มผลิตภาพได้อย่างมาก 
  2. คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) : เทคโนโลยีคลาวด์ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนเทคโนโลยีอื่น ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินได้จากทุกที่ ทุกเวลา อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ รองรับการขยายตัวของธุรกิจ และบูรณาการเข้ากับ AI และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างราบรื่น  อัตราการนำคลาวด์มาใช้ในสำนักงานบัญชีค่อนข้างสูง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกัน 
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) : มีการเปลี่ยนแปลงจากการรายงานข้อมูลในอดีตไปสู่การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึก คาดการณ์แนวโน้ม ระบุโอกาสในการประหยัดต้นทุน และสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์  เมื่อ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาจัดการงานประจำ นักบัญชีจะมุ่งเน้นไปที่การตีความข้อมูลและให้คำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้มากขึ้น 
  4. ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) : ไม่ใช่แค่เพียงแนวโน้มทางเทคโนโลยี แต่เป็นความจำเป็นทางธุรกิจขั้นพื้นฐาน เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทำให้ข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ การลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัส การสำรองข้อมูล และการออกแบบระบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น (Security by Design) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง 
  5. บล็อกเชน (Blockchain) : แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำมาใช้ในวงกว้าง แต่เทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการเพิ่มความโปร่งใส ความถูกต้อง และความปลอดภัยของธุรกรรมทางการเงิน ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และทำให้กระบวนการตรวจสอบบัญชีมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  6. การทำงานทางไกลและเครื่องมือทำงานร่วมกัน (Remote Work & Collaboration Tools) : การทำงานแบบทางไกลหรือแบบผสมผสาน (Hybrid) ยังคงเป็นรูปแบบการทำงานที่ได้รับความนิยม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคลาวด์ AI และระบบอัตโนมัติ เครื่องมือสื่อสารและทำงานร่วมกันจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนรูปแบบการทำงานนี้ และส่งผลต่อการสรรหาบุคลากรและการดำเนินงานของสำนักงานบัญชี 

 

บริการ
ข่าว
Copyright © 2025 A.R. Accounting & Consultant Co., Ltd. All Right reserved.