Logo-สำนักงานบัญชี-ARAC
ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร มีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร
อัปเดตล่าสุด : 11/06/2025
ภาษีธุรกิจเฉพาะถูกนำมาใช้ในประเทศไทยพร้อมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อทดแทนภาษีการค้าที่ถูกยกเลิกไป

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีประเภทหนึ่งที่จัดเก็บจากกิจการบางประเภทตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นพิเศษ  โดยแยกต่างหากจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)  กรมสรรพากรเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บภาษีนี้จากธุรกิจที่ดำเนินการในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล  ภาษีธุรกิจเฉพาะถูกนำมาใช้ในประเทศไทยพร้อมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อทดแทนภาษีการค้าที่ถูกยกเลิกไป มีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออุดช่องโหว่ของระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจัดเก็บภาษีจากธุรกิจที่ยากต่อการประเมินมูลค่าเพิ่ม เช่น ธุรกิจการเงิน  เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มีรูปแบบการดำเนินงานที่ซับซ้อน ทำให้ยากต่อการระบุมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจริงจากการให้บริการ 

ประเภทธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีดังนี้ 

ธุรกิจการเงิน : ธนาคารพาณิชย์ / ธุรกิจเงินทุน / ธุรกิจหลักทรัพย์ / ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และการประกอบการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน หรือรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ

ธุรกิจประกันชีวิต 

กิจการโรงรับจำนำ

การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร เช่น การจัดสรรที่ดินขาย / การขายห้องชุด หรือคอนโด / การขายอาคาร หรืออาคารพร้อมที่ดิน / การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เข้าตามข้อ 1 – 3 แต่เฉพาะกรณีที่มีการแบ่งขาย หรือแบ่งแยกไว้เพื่อขาย / การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ

ทั้งนี้ จะได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ หากถือครองอสังหาริมทรัพย์นานกว่า 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนานกว่า 1 ปี 

การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์

ธุรกิจแฟ็กเตอริ่ง

ธุรกิจอื่นๆ ที่กำหนด

 

ความแตกต่างระหว่างภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีมูลค่าเพิ่ม

แม้ว่าทั้งภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีมูลค่าเพิ่มจะจัดเก็บจากการซื้อขายสินค้าและบริการ แต่มีข้อแตกต่างอยู่ก็คือ ภาษีธุรกิจเฉพาะจะจัดเก็บจากธุรกิจเฉพาะบางประเภทที่กฎหมายกำหนด  ในขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บจากธุรกิจทั่วไป ธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยเหตุผลหลักในการแยกภาษีธุรกิจเฉพาะออกจากภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ความลำบากในการประเมินมูลค่าเพิ่มในธุรกิจบางประเภท เช่น ธุรกิจการเงิน เป็นต้น

 

การยื่นแบบภาษีธุรกิจเฉพาะ

ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการโดยใช้แบบ ภ.ธ.40 โดยแสดงประเภทกิจการ จำนวนเงินรายรับ จำนวนเงินภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีท้องถิ่นร้อยละ 10 ของภาษีธุรกิจเฉพาะ 

โดยผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องยื่นแบบภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ไม่ว่าจะมีรายรับในเดือนนั้นหรือไม่ สามารถยื่นแบบฯ ได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ หรือยื่นแบบทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร ซึ่งจะได้รับสิทธิขยายเวลายื่นแบบและชำระภาษีออกไปอีก 8 วัน หากภาษีในเดือนภาษีใดมีจำนวนไม่ถึง 100 บาท ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในเดือนนั้น แต่ยังคงต้องยื่นแบบแสดงรายการตามปกติ

วัตถุประสงค์ของการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ

เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล : ภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล ที่สามารถนำไปใช้ในโครงการพัฒนาต่าง ๆ เช่น การศึกษาสาธารณะ การรักษาพยาบาล หรือโครงการสิ่งแวดล้อม 

ควบคุมธุรกิจบางประเภท : ภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นเครื่องมือในการควบคุมพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน โดยการใช้กลไกภาษีเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางสังคมและเศรษฐกิจ  ตัวอย่างเช่น การจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ หรือการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรและลดมลพิษ 

อุดช่องโหว่ของภาษีมูลค่าเพิ่ม : ภาษีธุรกิจเฉพาะช่วยจัดเก็บภาษีจากธุรกิจที่ประเมินมูลค่าเพิ่มได้ยาก เช่น ธุรกิจการเงิน 

 

ผลกระทบของภาษีธุรกิจเฉพาะต่อธุรกิจ

ภาษีธุรกิจเฉพาะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในด้านต่างๆ ดังนี้ 

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น : ภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นต้นทุนทางภาษีที่ธุรกิจต้องแบกรับ ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น

กำไรที่ลดลง : ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีธุรกิจเฉพาะอาจส่งผลให้กำไรของธุรกิจลดลง

การปรับตัวของธุรกิจ : ธุรกิจอาจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับผลกระทบของภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น การปรับราคาสินค้าหรือบริการ การลดต้นทุน หรือการปรับโครงสร้างธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การควบรวมกิจการ หรือการจัดตั้งบริษัทในเครือ เพื่อลดภาระภาษี

บริการ
ข่าว
Copyright © 2025 A.R. Accounting & Consultant Co., Ltd. All Right reserved.